เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นายอภิชาติ จีระวุฒิปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเฉพาะกิจจัดทำหลักเกณฑ์การสรรหาผู้อำนวยการ (ผอ.) สถานศึกษา และรอง ผอ.สถานศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้ เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สถานศึกษา หรือ ผอ.สถานศึกษาทุกสังกัดทั่วประเทศ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การคัดเลือก และการสอบ โดยจะแบ่งตำแหน่งว่างออกอย่างละครึ่ง และดำเนินการเหมือนกับการสอบ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) และ ผอ.สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดการปรับเกณฑ์ใหม่นี้เพราะเห็นว่าวิธีการคัดเลือกดังกล่าวที่ได้นำไปใช้ในการคัดเลือกผอ.สพท.แล้วค่อนข้างได้ผล และมีประสิทธิภาพดีในการคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่ง ที่สำคัญยังช่วยคนที่ทำงานโดยไม่มีโอกาสได้อ่านตำรามากเข้ามาในตำแหน่งดังกล่าว
"เกณฑ์ที่ปรับใหม่ยังลดเวลา หรือประสบการณ์ในตำแหน่งครูชำนาญการของผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สถานศึกษาลง จากเดิมกำหนดไว้ 5 ปี เหลือ 3 ปีรวมทั้งจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีคุณวุฒิสูงด้วย ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มใช้คัดเลือกหลังผู้ที่สอบขึ้นบัญชีรอง ผอ.สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะครบการขึ้นบัญชีในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ และในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) จะใช้หลักเกณฑ์นี้ด้วย เพราะสอบขึ้นบัญชีครบแล้ว" นายอภิชาติกล่าว
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ สอศ.ได้ขึ้นบัญชีผู้ที่สอบคัดเลือกเป็น ผอ.สถานศึกษาสังกัด สอศ.ไว้ 300 คนอยู่ระหว่างฝึกอบรม ซึ่งเร็วๆ นี้ จะแต่งตั้งเป็น ผอ.สถานศึกษาแทนตำแหน่งที่ว่าง 26 ตำแหน่ง และเดือนตุลาคมจะแต่งตั้งเป็นผอ.สถานศึกษาแทนตำแหน่งเกษียณอายุในวันที่ 30 กันยายน อีก 34 ตำแหน่งโดยผู้ที่สอบขึ้นบัญชีไว้จะเป็น ผอ.รุ่นใหม่ตนเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อสถานศึกษาสังกัดสอศ.โดยคาดหวังว่าอีก 2 ปี จะพัฒนาการศึกษาด้านอาชีวศึกษาอย่างมาก
"ก่อนแต่งตั้ง ผอ.แทนผู้เกษียณ จะโยกย้ายผอ.สถานศึกษาทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเกณฑ์แต่งตั้งโยกย้ายนั้น สอศ.จะใช้หลักเกณฑ์และแนวทางที่ต่างจาก สพฐ.โดยจะโยกย้ายผอ.สถานศึกษาตามขนาด เช่น ผอ.สถานศึกษาขนาดเล็กไปขนาดกลาง หรือกลางไปขนาดใหญ่ เป็นต้น" น.ส.ศศิธารากล่าว
มติชน
75 ความคิดเห็น:
โห..งั้นก็เปิดโอกาสให้เส้นสาย หรือพวกพ้องขึ้นมา ไม่ค่อยยุติธรรมเลย
ระบบคัดเลือกนี่ใครเอาใจนายเก่ง คนนั้นก็ได้...สอบวัดความรู้ดีอยู่แล้ว
อาวุโส อำนาจเงิน พวกพ้อง นี่หรือ การปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง
เอื้อต่ออำนาจเงินอีกแล้ว ระบบทำไมเป็นแบบนี้แย่มาก
สอบวัดความรู้ ก้ดีที่รู้ดี เรียนดี ทำงานดี มีภาวะผู้นำดีหรือไม่ล่ะ มันก็มีดีมีด้อยทั้งนั้น
เขาแบ่งเป็นสองแบบเพราะเขาเจอะเจอปัญหาจากพวกเก่งตำรามาแล้ว
ขอบอก ผอ เขตพื้นที่แบบคัดเลือกประสบความสำเร็จ เก่งคน เก่งงาน
ระดับเลขา รองเลขา หรือผู้บริหารมืออาชีพรุ่นเก๋าๆมาจากคัดเลือกทั้งนั้น
สอบเก่ง เรียนเก่ง จบโทบริหารได้เป็นผู้บริหารเลย แบบนี้ก็ไม่เข้าท่าเยอะอยู่
ผอ รุุ่นเก่าก็ดีอยู่ แต่การเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าไปบริหารก็จะได้อะไรใหม่ๆ
ที่ผมเห็น ผอ รุ่นใหม่เขาทำอะไรใหม่เยอะแยะ
คนเก่าคุณสมบัติเขาครบ เข้าเกณฑ์ทุกอย่าง คุณวุฒิ วัยวุฒิ ประสบการณ์เพียบ เพียงแค่ไม่มีโอกาสสอบก็เท่านั้น คนที่มีคุณวุฒิสูงเช่น ป.โท บริหารขึ้นไป น่าจะมีลุ้น อย่าพึ่งมองคนในแง่ร้าย นี่แหละที่เขาว่าคนรุ่นใหม่เห็นแก่ตัวไม่มีคุณธรรม ชอบข้ามหัวคนอื่น การศึกษาไทยจะไปได้อย่างไร ให้สัดส่วน 50/50 ดีแล้วอย่าพึ่งโวยวาย รอดูฝีมือบริหารแบบเต็มอำนาจก่อนสิครับจะเห็นฝีมือ คนกลุ่มนี้ประสานงานเก่ง บารมีถึง มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง
ประสานงานเก่ง บารมีถึง เงินหนัก ประเทศชาติล่มจม เจอเต้ม ๆ
นี่แหละระบบราชการไทย อีกร้อยปีก็อยู่แค่เนี่ยแหละ
สอบรองฯ ต้องเป็นครูชำนาญการตั้ง 3 ปี ก่อนหรือครับ... แต่ก่อนในไม่ใช่แบบนี้ใช่ไหมครับ ใครรู้บอกหน่อยครับ
ต้องมี ดวง ครับ จึงสอบผ่าน ด. เด็กใคร ว. วิ่งเต้น ง. เงิน 5555
จะเป็นเกณฑ์แบบไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนที่ดีและมีคุณภาพหรอก...อย่ามองโลกในแง่ร้ยสิท่านปุถุชนทั้งหลาย...คนเราทำอะไรมันก็ติด...ถ้าจิตไม่พัฒนา
....ผู้ผ่านมา
เกณฑ์ ยังไม่ออกมาท่านเอ๋ย คิดมากทำไม อาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดหรอกนะ ท่าน ว่าที่ผอ รองผอ ไม่เกี่ยวกับเกณฑ์มันอยู่ที่วาสนา นะท่าน....ผู้ผ่านมา
ประกาศรับสมัครเมื่อไหร่ ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย ขอบคุณคะ
การขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา สมควรเปิดกว้างทุกด้าน แต่น่าจะเป็นไปตามลำดับขั้น จะเป็นการฝึกการบริหารไปโดยอัตโนมัติ เช่น จากครูผู้สอน เข้าสอบหรือผ่านกระบวนการประเมินคุณภาพ เป็นรองผู้บริหาร แล้วเข้าสอบหรือประเมินคุณภาพเข้าสู่ผู้บริหาร ตามกระบวนการและหลักเกณฑ์ที่เป็นระบบและเหมาะสม น่าจะเป็นกระบวนการที่ดีที่สุดในการพัฒนาคุณภาพของคนในวงการบริหาร มีความรู้มากไม่ใช่ว่าจะบริหารดีเสมอไป
เห็นว่าผู้มีสิทธิสอบได้ต้องจบ ป.โท บริหารด้วยนะ แล้วจะเริ่มสอบและคัดเลือกกันเมื่อไหร่หมดบัญชีแล้ว
ต้องเป็นรอง ผอ.ก่อนครับจึงจะเป็น ผอ.ร.ร. เห็นด้วยอย่างยิ่ง อ.ก.ค.ศ.คัดเองก็ไม่ดี เพราะจะคัดเอาแต่คน ,ญาติตนเองซึ่งไม่ได้คนที่เก่ง ดี จริงมาเป็น ผอ.ร.ร. เมื่อก่อนตอนเป็น สปจ. สปอ. คัดครึ่งหนึ่ง สอบครึ่งหนึ่ง ดีมากๆ
ถึงเวลาที่จะเอาผู้บริหารประเภทกบแก่ในกะลาเก่าออกไปซะที
บริหารได้งี่เง่ามาก
ตอนนี้คนโง่อย่างเราก็มีสิทธิสิ ขอให้มีเส้นสาย มีเงิน 5555 สร้างความแตกแยกจริง
ช่วยกรุณาลงลายละเอียดของเกณฑ์ใหม่ด้วยนะคะ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการเข้าสู่ตำแหน่ง
ผอ.ที่เป็นไปตามลำดับขั้น ครู ไปเป็นรอง ผอ.ก่อน และจากรอง ผอ.เมื่อฝึกวิทยายุทธเก่งกล้าแล้ว จึงไปเป็น ผอ.ประสบการณ์สำคัญมาก เพราะปัจจุบันนี้ รอง ผอ.ก็ทำงานทุกด้านอยู่แล้ว เมื่อลงสู่สนามจริงน่าจะเป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพ มากกว่าพวกก้าวกระโดด
ใช่การที่จะสอบเป็น ผอ.โรงเรียนน่าจะผ่านการเป็นรอง ผอ.มาก่อน เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า รู้ภาระงาน และเต็มใจเข้าไปสอบ ผอ.ทั้งที่ผ่านงานบริหารมาแล้ว ปแต่ครูผู้สอนบางครั้งก็ลองไปสอบเล่นๆ พอได้ก็ไปบรรจุอย่างนั้นแหล แต่ส่วนใหญ่เจอปัญหาเพราะไม่เคยผ่านงานบริหารมาก่อนเลย
แสดงว่าคนที่เห็นด้วยคงเป็นรองมาแล้วหลายร้อยชาติและไม่มีความสามารถในการสอบภาคกแล้วสินะ 55555555555
การแบ่งระหว่างสอบและคัดก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี..แต่ห่วงในด้านการประเมินเข้าสู่ตำแหน่งนี่สิจะโปร่งใส ตรวจสอบได้ ..โดยใช้หลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี ตามนโยบายจริงหรือเปล่า
คะแนนสัมภาษณทำไมถึงเยอะแยะมากมายมหาศาลขนาดนั้น..
การได้มาซึ่งตำแหน่งหรือวิทยฐานะต่างๆ..มันต่างกัน.บางคนได้มาด้วยความสามารถจริงๆ..บางคนได้มาเพราะอาศัยระบบอุปถัมภ์..ถามว่าระหว่าง ..คนที่ 1 และคนที่ 2 ใครจะมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่ากัน .
คำตอบ............
มีประสบการณ์ในการบริหาร...ถูกผู้มีประสบการณ์ในการบริหารมาบริหาร.. ความรู้สึกจะต่างกัน..บริหารเยี่ยมผู้ถูกบริหารยินดีทำงานถวายหัว
บริหารแย่..ผู้ถูกบริหารจำใจทำงานตามหน้าที่
ถามว่า..แบบไหนจะนำพาบ้านเมืองให้เจริญ
สรุปว่า จะมีเปิดสอบไหม? ปีนี้(2554)
มีสอบแน่ อ่านหนังสือรอได้เลย
ครูที่ดียังมีอยู่ใช่หรือไม่....ครูที่ตั้งใจพรากเพียรสอนหนู...
อยากได้ครูที่ทุ่มเท ตั้งใจ ในการงาน
ไม่อยากให้มีครูที่บ้ายศ บ้าตำแหน่ง หลงอำนาจ เมาในสมบัติของแผ่นดิน
ครูสอนคน...ก่อนสอนคนต้องสอนตนให้ได้ก่อน...
จากคน....เคยถูกสอน...ที่คนสอนนั้นเขาเรียกตัวเองว่าครู.
บริหารแบบมวยวัด จัดการศึกษาตามมีตามเกิด ผอ.เหล่านี้ต้องเอาออกก่อน ถ้าไม่ยุบ รร.ผู้ปกครองก็ไล่หรือไม่ก็ย้ายเด็ก ถ้าไม่มีเด็กก็ไม่ต้องมี ผอ.สันหลังยาว โดยเฉพาะพวกแดกเหล้ากับเข้าประชุมสุมหัวแต่เรื่องไม่สร้างสรรค์
ถ้าให้ดีสอบ เป็นผู้บริหารควรจะมีอายุ 40 ปี ขึ้นไป เพราะมีทั้งวัยวูฒิ และวุฒิภาวะทางอารมณ์
ปัจจุบัน ถ้ามีการสอบ รองผอ./ผอ.ร.ร. พวก อ.ค.ศ.เรียกเงินทั้งนั้น วิธีแก้คือ ให้ผู้เข้าเกณฑ์ทั้งหมดสอบผ่านภาค ก ก่อน แล้วจึงไปคัดเลือกในภาค ข โดยให้ ก.ค.ศ.คัดเลือกเอง จะได้ ผอ.ร.ร. เก่งๆ ประเทศชาติเจริญแน่ ปัจจุบันแย่เพราะอำนาจเงินและพวกพ้อง
ถ้าคัดเลือกลูกเดียว โดยไม่มีการสอบภาค ก จะได้ ผอ.ร.ร.ที่โง่ ไม่รู้ระเบียบ ไม่รู้กฎหมาย มีแต่เงินมากเท่านั้น น่าสงสารประเทศไทย
เห็นด้วยนะ ให้ผู้เข้าเกณฑ์สอบผ่านภาค ก ก่อน จึงมาคัดเลือกในภาค ข และ ก.ค.ศ.คัดเลือกเองนะ รับรองได้คนเก่งเป็นผู้บริหารอย่างแน่นอน เจริญแน่นอน การศึกษาไทย
เก่งแต่ไม่เอาใคร ไม่รุ่งหรอกนะ
แบบเก่า และแบบใหม่ ดีอย่างละแบบ
แต่เกรงว่า พอมาระดับเขตแล้ว จะไม่โปร่งใสยุติธรรมครับ คะแนนก็สูง 200 คะแนน
(เงิน เส้นสาย คนของเจ้านายผู้มีอำนาจ ในระดับเขต ได้ทุกคนแน่นอน ไม่มีเงิน ไม่มีเส้นสาย อย่าหวัง ...บางเขตครับ เพราะเงินไม่เข้าใครออกใคร
ผู้บริหารสถานศึกษายุคใหม่มีแต่เด็กๆ บริหารโดยไม่เห็นหัวครูแก่เลยก็มี ใช้อำนาจบาทใหญ่ บ้าอำนาจก็มาก
ผมมีความคิดว่า สอบภาค ก ภาค ข ภาค ค ส่วนกลางดำเนินการให้หมดจะดีกว่า เพราะถ้า ภาค ข ภาค ค ให้เขตดำเนินการแล้วจะมีภาค ง เพิ่มมาอีก มากด้วยนะครับ
เฮ้อ..อ่านกระทู้ของพี่และเพื่อนวงการเดียวกันแล้วท้อนะ ตั้งใจจะไปสอบเป็นผู้บริหารกะเขาบ้าง ปัจจุบันเป็นครูที่ทำหน้าที่และงานบริหารด้วย เกณฑ์ใหม่ถ้าเปิดโอกาสให้ครูสามารถสอบเป็นผอ.ได้เลย ก็จะสอบ เพราะทุกวันก็ทำงานแทนผอ.อยู่แล้ว คิดว่าเป็นผู้บริหารได้ชัวร์ จากประสบการณ์ ตั้งใจจะเป็นผู้บริหารในฝันของคุณครูทุกคน จะสมประสงค์ไหมเนี่ย
ทำไปทำมาก็กลับไปรูปเดิม ระบบเส้นสายกำลังรอคิว ประเทศไทยอะไรก็ไม่ชัดเจนสักอย่างไม่มีจุดยืนใครบอกยังไงก็เห็นดีไปกับเขาทุกเรื่องเวรกรรมของประเทศไทยจริงๆ และเป็นเวรกรรมของกระทรวงศึกษาด้วย
การตั้งเกณฑ์ใหม่ก็ดี แต่การคัดเลือก หรือสอบคัดเลือก สรุปแล้ว ด.ว.ง. ใครดีแค่นั้นแหละสังคมไทย
สอบเมื่อไรกันแน่ผอสถานศึกษา ครูชำนาญการพิเศษสอบเป็นผอได้เลยหรือไม่โดยไม่ผ่านรองผอ เป็นหัวหน้างานวิชาการอยู่แล้ว
ทั้งตำแน่งครูทั้งตำแหน่งผอควรมีจรรยาบรรณมากๆ ทำงานเพียงมีอาชีพครูเท่านั้นจิตสำนึกความเป็นครูเพื่อเด็กน้อยมากๆ
แล้วเกณฑ์การสอบผู้บริหารที่ชัดเจนเป็นอย่างไรเผื่อคนที่สนใจที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติเขาอยากจะสอบบ้าง
ข้าราชการต้องสอบเข้าทำงานท่านั้น คัดเลือกมันเอ็งซวย ก็พวกของมึงทั้งนั้น
อยากจะลองสอบรองผู้อำนวยการสถานศึกษาดูบ้าง เปิดรับสมัครเมื่อไรแจ้งด้วยนะค่ะ อุดมการณ์เดียวกัน
อยากสอบผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ สอบถามแล้วต้องมีวุฒิบริหารทางการศึกษา แต่ดิฉันไม่มี เราจะเอาคำสั่งเป็นหัวหน้างานไปขอที่คุรุสภา จะได้มั๊ยใครรู้บอกด้วย หรือถ้ามีทางอื่น ก็บอกด้วยขอบคุณคะ
โรงเรียนที่ครูไม่มีความรับผิดชอบงานเยอะมากปล่อยเด็กเล่นไปวันๆ จรรยาบรรรไม่มีซ่ะเลย
จริงๆเห็นด้วยท่านผอ.เขตรู้บ้างไหมนะ ช่วยลงไปดูบ้าง อย่ามัวแต่นั่งอยู่ห้องแอร์
จริงๆเห็นด้วยท่านผอ.เขตรู้บ้างไหมนะ ช่วยลงไปดูบ้าง อย่ามัวแต่นั่งอยู่ห้องแอร์
สับสนหลายกระแสมาก ขอถามนะคะ ว่าถ้าต้องการสอบเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษาจำเป็นไหมต้องสอบเป็นรองผู้อำนวยการสถานศึกษาก่อน 1 ปี
อยากทราบเหมือนกันว่า วิธีการคัดเลือกจะทำอย่างไร อยากเป็นผอ.ร.ร.มากเลย แต่อยากเป็นผอ.ร.ร.มัธยมนะ ประถมไม่เอา
สังคมไทยจะพัฒนา ถ้าเรารู้จักยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง อย่างมีเหตุผล
ถ้ายึดความคิดตัวเองว่าถูกที่สุด ก็จะวุ่นวายไม่รู้จบ รุ่นเก่า รุ่นใหม่ ยังไงก็ต้องทำงานร่วมกัน ส่วนใครอยากเป็น ผอ.โรงเรียน ไม่ว่าจะเด็ก หรือแก่ ต้องทำตัวเองให้เข้าหลักเกณฑ์ และขอให้เก่งจริง ย่อมได้รับโอกาสมาร่วมกันพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย..ให้ทัดเทียมนานาชาติ ถ้าเรา(ครู)ไม่พัฒนาความคิด เอาแต่เถียงกัน เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ก็คงหวังอะไรที่ตัวเด็กได้ยาก
เอาเถอะ...เกณฑ์ก็ตั้งมาแล้ว เราเปลี่ยนไม่ได้หรอก เราเป็นคนตัวเล็กๆ เอาว่า ตอนนี้ ทิศทางที่จะฝ่าไป จะต้องทำอะไรบ้าง 1 2 3 4 .... เอาให้ชัดเจนแบบ "เอาให้อยู่"
เปิดสอบภาค ก เมื่อไรแน่คะ ตอนนี้เป็นครูสายผู้สอน จบ ป.บัณฑิตบริหารการศึกษา ต้องไปทำใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารเพื่อนำมาประกอบการสอบก่อนหรือไม่ ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ (จบโท รัฐศาสตร์ กำลังต่อ ด็อก ทางรัฐศาสตร์)
เขาเปิดสอบหรือคัดเลือกย่อมมีแนวคิดที่พัฒนาเเล้ว คนที่คิดว่าเขาใช้เส้นสายแน่ใจได้ไงไปกล่าวหาเลื่อนลอย ถ้าไม่ชอบก็ไปเป็นเองดิจะได้เอาแนวคิดตัวเองเสนอ ฮ่าๆ
น่าจะมีจับฉลากด้วย....เหมือนเข้าโรงเรียนดัง...55555
การสอบดีอยู่แล้วคับ...ครูทุกหมู่เหล่าเขายอมรับ..คนอ่านหนังสือเตรียมสอบคงหมดกำลังใจซิครับ...การบริการการศึกษาไทยล้มเหลวแน่นอนถ้ามีการคัดเลือก
มีเกณฑ์คัดเลือกด้วยเยี่ยมวากครับ /สพฐ.มาถูกทางแล้ว ถ้าคัดเลือกจะได้คนทำงาน
ไปทำงาน เพราะความสำเร็จทุกอย่างในโลกเกิดจากการลงมือทำครับ
เกณฑ์คัดเลือกดีมากครับ // จะได้คนทำงาน มีความเหมาะสม มีประสปการณ์ ประสานคนเป็น //เวลาทำงานจริงๆ ผู้บริหารต้องครบเครื่องครับ จึงจะเอาโรงเรียนอยู่//เรื่องระเบียบเวลาทำงานก็ต้องเปิดระเบียบดูได้ครับ สบายมากเรื่องระเบียบ กฎหมายต่างๆ แต่ว่าความเหมาะสม ประสปการณ์ ทำงานเป็น นี่สำคัญ น่าจะมีคัดเลือกตั้งนานแล้ว.....
มีทั้งการสอบและการคัดเลือกทั้งสองแบบก็ดีแล้ว เพราะจะทำให้ผู้อาวุโสที่อ่านหนังสือไม่ค่อยจำแล้ว มีโอกาสได้รับการคัดเลือก แต่การคัดเลือกต้องเป็นลำดับขั้นตอนไม่ใช้
คัดเลือกแบบก้าวกระโดด หรือคัดแบบพวกมากลากไป คัดแบบอำนาจเงิน การคัดเลือกต้องมีเกณฑ์ชัดเจน มีประสบการณ์ คุณวุฒิ วัยวุฒิ ก็โอเคนะ
เปืดโอกาสให้คัดเลือกตำปหน่งผู้บริหารมากเท่าพวกตัวดูดหิวกระหายเงินระบบพรรคพวกยิ่งมากเท่าอย่างเมื่อไรประเทศชาติจะเจริญสักที คนคิดก็ชั่งไม่ระอายใจเลยส่อให้เห็นความเป็นคนอย่างไรไม่น่าจะมีอยู่ในแวดวงการศึกษาไม่อายประเทศเวียดนามบ้างหรือผู้ใหญ่ข้างบนยากจนมากนักหรือ
ผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาทำอะไรกันอยู่ทำไมจึงต้องมีการคัดเลือกแบบมีพรรคมีพวกในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา เงินเดือนที่ท่านได้รับไม่อยู่พอใช้หรือถึงต้องเปิดระบบราชการเงินใต้โต๊ะกันมากกว่าระบบสอบคัดเลือกยังว่าเพราะที่ท่านนั่งในตำแหน่งท่านก็ใช้เงินเข้ามาไม่มีปัญญาสอบหรือ
ระบบคัดเลือก ถ้าวางเกณฑ์ดีๆ จะได้คนที่เหมาะสม ทำงานได้ ทำงานเป็น นำพาโรงเรียนเดินไปได้ ระยะยาว คนอยากทำงาน เพราะการทำงาน จะมีคนเห็น สวรรค์มีตา ที่สำคัญคนทำงานจะเจริญรุ่งเรือง ระยะยาวคนจะตั้งใจทำงาน ขยันสอน จิตอาสา คนตั้งใจทำงานจะมากขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะทำงานแล้วเกิดมรรค เกิดผล สพฐ. น่าจะคัดเลือกตั้งนานแล้ว
มีทั้งสอบและคัดเลือกดีแล้วเปิดโอกาสทั้งสองฝ่าย เพราะคนที่สอบบริหารดีก็มีบริหารเหลวแหลกก็เยอะ คนที่ได้รับคัดเลือกบริหารเป็นแบบอย่างที่ดีก็มีหลาย บริหารแบบไม่เอาถ่ายก็มี ประเทศชาติไม่หล่มจมหรอกถ้าช่วยกันเสียภาษีให้รัฐ
จะสอบแล้วหรือของเก่ายังไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่งเลยมัธยมผลประโยชน์ไม่ลงตัวโดยเพาะสพม.7 อรัญประเทศ ปรอ. ไทยรัฐ 7 อดุลย์ศาสนฯ นายกพิทยาคาร ว่างตั้งแต่ 1 ตค 53 รัฐมนตรีคงไม่รู้
น่าจะเปลียนระเบียบ ให้ครูชำนาญการ สอบเป็นรอง ผอ ก่อน สอบ เป็น ผอ
สรุปแล้วจะเปิดสอบภาค ก.อีกเมื่อไหร่คะ
เกณฑ์สำหรับรองผอ. คือ
๑. ต้องเป็นครูชำนาญการมาแล้ว ๓ ปี
๒. ต้องเป็นหัวหน้ากลุ่มสาระ(เท่านั้น) มาแล้ว ๒ ปี
๓. ต้องจบ ป.โท บริหารฯ
ถูกต้องหรือเปล่าคะ ท่านผู้รู้ช่วยฟันธงหน่อยค่ะ
การที่จะบริหารงานตำแหน่งผู้บริหารและรองผู้บริหารสถานศึกษานั้นควรมีการคัดเลือกและสอบคัดเลือก 50/50ดีแล้ว ดีทั้ง 2 รูปแบบขอเพียงให้คณะกรรมการมีความเป็นธรรมไม่เห็นแก่เงิน และพวกพ้องที่ผ่านมาขนาดสอบยังได้ยินว่าใช้เงินช่วยหลักแสนกว่าเลยครับ
ไม่ว่าจะเป็น ผอ.โรงเรียนในสังกัด สพฐ หรือ ผอ.วิทยาลัย ต่าง ๆ ของ สอศ. ก้ไม่ควรอยู่นานเกิน 4 ปี ควรย้ายให้ไปบริหารงานที่อื่น ๆ บ้างเพราะจะได้ท้าทายกับความสามารถ ของผู้บริหาร และจะได้ไม่เป็นการสร้างอิทธิพลด้วย
พวกคิดเกณฑ์ไม่รู้เอาอะไรคิด คิดไม่คลุมเลย ผอ.แต่ก่อนก็ล้วนมาจากการคัดเลือกทั้งนั้น มีปัญหามากเหมือนกันไม่เห็นว่าจะดีกว่ากลุ่มสอบเท่าไหร่ ทำไมไม่ยอมรับว่าที่มีปัญหาที่สุดคือผู้ดำเนินการสอบที่เห็นแก่ได้เห็นแก่พวกพ้อง กับผู้เข้าสอบที่ไม่มีคุณธรรม ใช้เงินนำหน้า ชอบเลียนาย แทนที่จะหาทางป้องกันแก้ไขเรื่องคุณธรรม กลับมาตั้งเกณฑ์ตามหลังพวกนี้เรื่อยไป ระบบไหนก็พังหมดนะแหล่ะถ้าคนอยู่ในระบบไม่ดี คิดให้มากกว่านี้หน่อย ดูเกณฑ์แล้วเอื้อให้เฉพาะกลุ่มที่อยู่นาน บางคนอยู่แล้วก็ควรอยู่ต่อไป ไม่ควรส่งขึ้นไปบริหารให้สูงกว่านี้ บางคนอายุยังน้อยถ้าเขามีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมก็ควรให้โอกาสเขาให้มาก
ไม่ว่าจะใช้เกณฑ์ใดๆ ขอให้ได้ ผู้บริหารที่ มีคุณธรรมนำความรู้ ไม่ต้องดูอื่นไกล ผู้บริหารปัจจุบันที่ดีๆ มีสัก กี่เปอร์เช็นต์ เห็นแก่ตัว ไม่ไปโรงเรียน ร้านสุด ทุจริต หัวไม่กระดิก หางไม่ส่าย ไร้จิตสำนึก ภัยร้ายต่อประเทศชาติ
ต้องยอมรับว่าโรงเรียนมัธยมสังกัดสามัญเดิม หรือถ้าเป็นไปได้สังกัดอื่นๆด้วย ยังมีความจำเป็นต้องการผู้บริหารที่มาจากการคัดเลือก เพราะนโยบาย การทำงานโรงเรียนหลายๆ อย่างยังต้องการคนที่เคยทำงาน ผู้มีประสปการณ์ โดยเฉพาะการครองคน การครองงาน ประสานคนเป็น ถ้าเปิดใจสักนิด //ก็มีกระทรวงศึกษานี่แหละที่สอบเข้าสู่ตำแหน่ง ถือว่าแฟร์สุดๆ แล้วครับ เหลืออย่างเดียวที่ไม่สอบเข้าสู่ตำแหน่งคือเลขา สพฐ. //ผู้ที่อยากเป็นผู้บริหารก็ต้องสั่งสมประสปการณ์ ทำคุณสมบัติให้ได้ เป็นผู้บริหารมันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด //เกณฑ์สอบใหม่ล่าสุด แบ่งกลุ่มประสปการณ์เป็นการยืนยันเจตนาของผู้ใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้ว่า ต้องการผู้มีประสปการณ์ และทำงานเป็น สุดยอดครับท่าน น่าจะทำอย่างนี้มานานแล้ว
ครูธรรมดาท่รักษาการณ์รองฯ ถึงมีผลงานก็คงมีน้ำหนักน้อยกว่ารองฯที่รักษาการณ์ ผ.อ.อย่างนี้ก็ต้องไปสอบวัดดวง เงินไม่มี บารมีก็ขาด ชาตินี้จะได้ชดใช้กรรมในตำแหน่งผ.อ.
หรือเปล่าน๊อ..
แจมด้วยคนนะครับ
ก่อนอื่น...ก้อชื่นชมทุกสำนวนโวหารที่ผ่านมานะ แต่ก็ขอถามหน่อยนะว่า ก่อนที่เหล็กท่อนหนึ่งจะกลายมาเป็นดาบชั้นดี มีคุณภาพ และมีคุณค่า ควรแก่การใช้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง การเผาไฟ การทุบด้วยฆ้อน การจุ่มนำเย็น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนตีให้เข้ารูปตามที่ต้องการและมีความแกร่ง ความคม ยังไม่พอยังต้องมีการลงอักขระผ่านพิธีการ ทำปลอกที่สวยงาม ควรค่าแก่ผู้ถือ ท่านคุณครูที่เคารพทุกท่านครับ อยู่ดีดีมีรถแม็คโครยกขึ้นที่สูงเลยด้วยกระบวนการที่ไม่ชอบธรรมอะไรก็ตาม คุณเชื่อมั่นแล้วหรือว่าจะนำพาคณะครู บุคลากรทางการศึกาและเยาวชนของชาติสู่ความเจริญที่ยั่งยืน ถาวร หรือท่านกำลังสนองความอยากของตนเองและพรรคพวกแล้วบ่อนทำลายอนาคตของชาติบ้านเมือง...การเป็นผู้บริหารต้องใช้การเวลาบ่ม เพาะ นะครับ ไม่ใช่ผู้บริหารบ่มแก๊ส สงสารประเทศชาติเถอะนะ หยุดพฤติกรรมเหล่านั้นเถอะ เพื่อเขาจะได้ยกย่อง เชิดชู สถาบัน และวิชาชีพครูให้ดูดีขึ้นมาสักนิด...ต้องขอโทษ ขออภัยจริงจริงครับ ที่ผมพูดความจริง ความถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกใจหลายคน...นัสรูดิน
ครููธรรมดาที่รักษาการรองฯ มาอีกแล้ว
ที่ท่านกล่าวมาก็ถูกแล้วล่ะท่าน เหล็กที่ผ่านร้อนผ่านเย็นผ่านเวรและกรรมจนทำเป็นดาบได้นั้นต้องเป็นดาบที่ดีแท้แน่นอน แต่ความเป็นมาของเหล็กก็ย่อมแตกต่างกันและความเป็นมาของผู้ที่จะเลือกถือดาบนั้นก็ยิ่งแตกต่างกันมาก แต่เอาเหอะอย่างน้อยก็ขีึ้นชื่อว่าดาบเมื่อตองประดาบกับอีกข้างมันก็ต้องปกป้องมันเองและขุนศึกคู่ใจผู้เลือกมันไว้ข้างกายอย่างเต็มที่แหล่ะน่า....ษษมา ปักษาสวรรค์.
สอบผอแล้ว
แสดงความคิดเห็น